แอปพลิเคชั่นมือถือ ที่ควรมีไว้ในโทรศัพท์

5 แอปพลิเคชั่นมือถือ ที่ควรมีไว้ในโทรศัพท์

สังคมในปัจจุบัน ดำเนินไปได้ด้วยเทคโนโลยีแทบจะเกือบ 100% เราสามารถค้นหาข้อมูล เดินทาง ติดต่อสื่อสาร หรือแม้แต่ทำธุรกรรมที่สำคัญ ผ่านเทคโนโลยีได้ทั้งหมด

ซึ่งสิ่งที่เชื่อมโยงเรากับคนทั่วโลกเข้าด้วยกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ ก็คือแอฟพลิเคชั่น ที่เราติดตั้งลงอุปกรณ์แพลตฟอร์มต่าง ๆ แน่นอนล่ะว่าแต่ละคน ก็จะมีแอปพลิเคชั่นที่จำเป็นต่างกันออกไป แต่ไม่ว่าจะอย่างไร

ทุกคนก็ต้องมี 5 แอปพลิเคชั่นมือถือ ที่ควรมีไว้ในโทรศัพท์ ที่เราจะนำเสนอต่อไปนี้ด้วย ส่วนจะมีอะไรบ้าง ตาม thaiphonenews.com ไปดูกันเลย

แนะนำ 5 แอปพลิเคชั่นมือถือ ที่ควรมีไว้ในโทรศัพท์

1. Google Maps

แน่นอนว่าแอปพลิเคชั่นสำคัญ ที่ทุกคนควรมีเอาไว้ในเครื่องเป็นอย่างแรก มันคือแอป Google Maps เพราะแอปพลิเคชั่นนี้ จะช่วยให้เราสามารถเดินทางไปในที่ต่าง ๆ ที่เราไม่รู้จักได้อย่างปลอดภัย Google Maps เป็นแอปนำทางที่ดีที่สุดและเป็นแอพสามัญประจำบ้านตัวช่วยสำหรับการเดินทางที่ขาดไม่ได้ แสดงที่หมายได้เร็วขึ้นแบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังสามารถดูการจราจรว่าเส้นไหนรถติด ไปเส้นไหนเร็วกว่ากัน และยังบอกจุดพักรถ ปั๊มน้ำมันต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการเดินทาง ช่วยให้วางแผนการเดินทางได้ง่ายขึ้น ตอนนี้แอพฯ มีการอัพเดทเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อย ๆ ต้องเดินทางไปไหนมาไหน แนะนำให้โหลดไว้เป็นอย่างยิ่งเลย ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นนี้ฟรีทั้งระบบ  Play Store และ App Store

2. AirVisual

ช่วงนี้สภาพอากาศของประเทศไทย เรียกได้ว่าแปลปรวนสุด ๆ บางพื้นที่ต้องเผชิญกับปัญหาหลาย ๆ อย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน อย่างเช่น P.M. 2.5 ที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และส่งผลกับสุขภาพของมนุษย์โดยตรง แอปพลิเคชั่นหนึ่งที่จำเป็น และบอกสถานการณ์ต่าง ๆ ให้เราระวังตัวเกี่ยวกับสภาพอากาศได้จึงเป็น AirVisual แอปนี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ ตรวจสอบและพยากรณ์สภาพอากาศในยุคที่มลพิษปกคลุมเมืองไปทั่ว ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้สะดวก มีข้อมูลสภาพมลพิษแบบละเอียด แบ่งตามช่วงเวลาซึ่งจะแบ่งเป็นสีตามคุณภาพอากาศ ในแต่ละระดับคุณภาพอากาศ AirVisual จะมีคำแนะนำด้วยว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไร เช่น ไม่ควรเปิดหน้าต่าง สวมหน้ากากอนามัย หรือไม่ควรทำกิจกรรมกลางแจ้งใด ๆ บอกละเอียดยิบแบบนี้ ShopBack ขอยกตำแหน่งแอพที่ควรมีให้ไปเลย และแน่นอนว่าสามารถดาวน์โหลดฟรีได้ ทั้งระบบ Play Store และ App Store

3. Digital Wellbeing Experiments

อีกแอปที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของโทรศัพท์ได้อย่างดี คือ Digital Wellbeing Experiments นี่เป็นแอปที่จะช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถจัดสมดุลของโทรศัพท์ได้อย่างลงตัว ประกอบด้วย Unlock Clock, We Flip, Post Box, Morph, Desert Island และ Paper Phone ซึ่งบางแอปพลิเคชั่นอย่าง Unlock Clock จะคอยแสดงความถี่ในการปลดล็อคหน้าจอของสมาร์ทโฟน เพื่อช่วยให้เราปรับการใช้งานให้พอดีไม่มากจนเกินไป ซึ่งการออกจากโลกออนไลน์บ้างถือเป็นแนวคิดในการใช้ชีวิตที่ดีต่อใจและดีต่อสุขภาพด้วย ใครที่ยังไม่มีรีบโหลดกันด่วน ๆ เลยค่ะ

4. IRL – Social Calendar

ไม่ว่าจะเป็นน้อง ๆ นักศึกษา หรือคนกลุ่มที่อยู่ในวัยทำงาน เราเชื่อว่าแต่ละคนต้องมีตารางนัดหมาย หรือตารางที่ใช้จดบันทึกเรื่องราวสำคัญต่าง ๆ แน่นอน แต่น่าจะดีกว่าถ้าเรามีแอปพลิเคชั่นปฏิทิน ที่มีระบบแชตในตัว ช่วยในการจัดระเบียบให้ทุกอย่างง่ายขึ้น อย่าง IRL – Social Calenda เช่นเมื่อมีกิจกรรมนัดพบหรือชวนกันไปดูคอนเสิร์ตของกลุ่มเพื่อน ๆ เราก็สามารถพูดคุยเรื่องดังกล่าวได้ในปฏิทินที่ระบุวันที่เอาไว้ หรือจะใช้สำหรับโอกาสพิเศษในครอบครัวก็ยังได้เช่นกัน

5. LINE

ไลน์ หรือ LINE ถือเป็นแอปพลิเคชั่นจำเป็น ในการใช้ชีวิต เพราะมันครอบคลุมการทำงานหลายรูปแบบ แน่นอนว่าแอปพลิเคชั่นนี้ ทำให้การติดต่อสื่อสารของเราเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย และถือว่าเป็นแอปพลิเคชั่นส่งข้อความ ที่อยู่คู่คนไทยมาเป็นเวลานานพอควรแล้วทีเดียว ด้วยฟีเจอร์การส่งข้อความ โทรเสียง และวิดิโอคอลที่ครบถ้วน ทำให้เป็นแอปที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับมือถือทุกเครื่อง แถมปัจจุบันก็ได้มีการพัฒนาให้กลายเป็นเสมือน Super App ที่มีทั้งบริการธนาคาร ร้านค้าขายของ และอื่น ๆ อีกมากมายในแอปเดียวอีกด้วยแบบครบวงจรด้วย เพื่อน ๆ คนไหนที่ยังไม่มีแอปพลิเคชั่นเหล่านี้ในสมาร์ทโฟน รีบจัดการโหลดให้ไว้เลยค่ะ เพราะเราเชื่อว่าสักวัน เพื่อน ๆ จะต้องได้ใช้แอปพลิเคชั่นเหล่านี้แน่นอน

บทความที่น่าสนใจ

คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ จัดเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมาก ๆ ในการเรียน การสอน ตลอดจนการทำงานในสำนักงานใหญ่ ๆ แม้ว่าในปัจจุบันนั้น คนจะหันมาใช้โน้ตบุ๊กกันมากขึ้น